.

Roulette

ความเป็นมาของรูเล็ต (เล็กๆน้อย)

รูเล็ต (Roulette) ...มาจากภาษาฝรั่งเศษ ซึ่งแปลว่า วงล้อเล็กๆ  ซึ่งถูกประดิษฐ์ขึ้นในราว ปี 1842 โดย นักคณิตศาตร์ ชาวฝรั้งเศษที่หลงไหลในเรื่องการเคลื่อนไหวของวัตถุ ที่ชื่อว่า Blaise Pascal (ก่อนหน้านั้นก็มีเกมส์แบบนี้เล่นมาตั้งแต่ปี 1796 แต่การจัดรูบแบบตัวเลขยังไม่เป้นมารตฐาน) จนต่อมา นาย Francois และ Louis Blanc  ได้เพิ่มเลข 0 เข้าไปในวงล้อ เพื่อเพิ่ม ความได้เปรียบให้กับฝังเจ้ามือ. และในหลายปีต่อมา รูเล็ตได้ถูกนำเข้ามาเล่นในอเมริกา..และได้ถูก เพิ่มเลข 0 ตัวที่สองเข้ามาในวงล้อ เรียกว่า 00 ซึ่งยิ่งเพิ่มความได้เปรียบให้ฝั่งเจ้ามือมากขึ้นไปอีก

           หลังจากนั้นรูเล็ตก็ประสบความสำเร็จกลายเป็นเกมส์ที่คนนิยมเล่นกันมากมาย จนได้ฉายา ว่า ราชาแห่งเกมส์คาสิโน จนมาจนถึงปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยอยู่ในคาสิโนทั่วโลก

ประเภทของรูเล็ต

            รูเล็ตถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ แบบ อเมริกา และ แบบยุโรป ความแตกต่างของ 2 ชนิดนี้ก็คือ เลข 0 ซึ่งแบบ อเมริกาจะมีเลข 0 อยู่ 2 ตัว คือ "0" และ "00"  ซึ่งฝั่งยุโรปจะมีแค่ 0 ตัวเดียว.. ซึ่งทางโต๊ะของอเมริกาฝั่งเจ้ามือจะมีความได้เปรียบผู้เล่น(นักพนัน) ประมาณ 5.3 % ส่วนโต๊ะของยุโรปจะมีความได้เปรียบอยู่ 2.7% นั้นหมายถึง เมื่อในระยะยาว เมื่อคุณเล่นโต๊ะอเมริกา เงินคุณจะหมดเร็วกว่าโต๊ะ ยุโรป อยู่เล็กน้อย เนื่องจากคุณจะวางเงินยังไง จะคลุมทั้งโต๊ะยังไง คุณก็เสียเปรียบเจ้ามือ 5.3% อยู่ดี ...ฉะนั้น นักพนันอย่างเราๆ เลือกเล่นโต๊ะยุโรปเท่านั้นครับ

           ความแตกต่างในเรื่องของชิบที่ใช้แทงก็ความแตกต่างเช่นกัน กล่าวคือ รูเล็ตโต๊ะอเมริกาจะใช้ชิบมูลค่าเท่ากันหมด ไม่มีชิบอื่นในการเล่นส่วนของฝั่งยุโรปชิบที่แทงจะมีหลายมูลค่าให้เลือกแทง ซึ่งจะเพิ่มความสับสนให้คนปั่นและผูเล่นอีกเล็กน้อย

          และเจ้าโต๊ะฝั่งยุโรปจะมีขนาดใหญ่กว่าโด๊ะของอเมริกามาก ซึ่งคนปั่น (พนักงาน) ต้องใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Rake ในรวบรวมชิบจากผู้เล่นซึ่งต่างจากโต๊ะอเมริกาซึ่งมีขนาดเล็ก พนักงานสามารถเก็บชิบและจ่ายชิบได้ด้วยมือ

 

 ภาพแสดงตำแหน่งของวงล้อ ยุโรป

ภาพแสดงตำแหน่งวงล้อ อเมริกา

            การวางเดิมพันของรูเล็ต

              การวางเดิมพันของรูเล็ตมีอยู่มากมายหลายแบบ ซึ่งทำให้เกมส์รูเล็ตเป็นที่นิมยม อย่างแพร่หลาย โดยหลักๆแล้วสามารถแบ่งการวางได้ดังต่อไปนี้

                     1.Straight up คือการวาง ตรงๆ ของตัวเลข

                    2.Spit คือ การวางคร่อม 2 ตัวเลข ในครั้งเดียว

                    3.Street คือการวาง 3 ตัวเลข เช่น 1-2-3

                     4. Corner หรือ มุม ก็คือการวาง 4 ตัวเป็นมุม 4 เหลี่ยม เช่น 11-12-13-14-15

                     5.column คือ การวาง 12 ตัวเลข ทางแนวนอน (ของตัวเลข)

                     6.Dozen คือการวาง ที่ละ 12 ตัวเลข (เป็นชุดทางแนวตั้ง)

                      7.Even Outside  เช่น ดำ-แดง-คู่-คี่-1-18 (เล็ก) 19-36 (ใหญ่)

 

 

ในภาพแสดงตำแหน่งการวางชิบ ของโต๊ะรูเล็ตแบบยุโรป

 ความได้เปรียบของเจ้ามือ

             ก่อนหน้านี้ผมพูดถึงการได้เปรียบของโต๊ะรูเล็ตแบบอเมริกาว่า เจ้ามือได้เปรียบ 5.3% แต่จริงๆแล้วคุณยังอาจไม่เข้าใจ ว่ามันหมายถึงยังไง .ไม่เป็นไร ผมจะพยายามอธิบายในแบบของผมเอง

            แต่ใช่ว่าเลข 0 เท่านั้นที่ผู้เล่นเสียเปรียบเจ้ามือเสมอไป ..แต่หมายถึงความน่าจะเป็นที่ลูกกลมจะตกลงไปในตัวเลขไดตัวเลขหนึ่ง คือ 2.702% (1/37) แต่ไม่ใช่ว่าให้ท่านๆเล่นเลข 0 ในทุกๆตาน่ะครับ..นั้นเป็นความเชื่อที่ผิด..ก็เพราะโอกาศที่มันจะออกก็เท่าๆกันกับหมายเลขอื่นๆ

เมื่อคุณแทง ดำ-แดง สูง-ตำ บนโต๊ะรูเล็ต ใช่ว่าโอกาศจะเป็น 50% น่ะครับ. เมื่อคุณแทงแดงที่มี 18 ตัวเลขโอกาศก็จะเป็น 18/37 เท่ากับคุณมีโอกาศ 48.654 % .นั้นหมายถึง โอกาศจะน้อยกว่า 50 % ครับ